คู่จิ้น(ไม่)จริงใจ หาทางไปต่อยังไงดี



แกเอ๊ย มานี่เลย จะเมาท์หนังเรื่องนึงให้ฟัง คือมันเป็นหนังรักโรแมนติกคอเมดี้ที่โคตรจะเรียล โคตรจะจี้ โคตรจะตรงกับชีวิตยุคนี้เลยเว้ย คือถ้าแกเบื่อแล้วกับหนังรักที่แบบเจอกันปุ๊บรักกันปั๊บ โลกเป็นสีชมพู ทุกอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งแบบง่ายๆ เรื่องนี้คือคำตอบ แกต้องมาดู Bros (2022) เพื่อนชาย มันคือเรื่องราวของคนสองคนเว้ย ที่แบบ โอ๊ย จะเริ่มเล่าตรงไหนดี คือมันจี๊ดมาก เอาเป็นว่าตัวเอกคนแรกเนี่ย เขาเป็นคนเก่งนะ เป็นคนฉลาด เป็นนักคิดนักเขียนที่แบบ ภูมิใจในความเป็นตัวเองสุดๆ ทำงานเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของชาวเราชาวสีรุ้งนี่แหละ คือเขาก็อยากให้โลกเข้าใจแหละ แต่ในขณะเดียวกัน ลึกๆ แล้วเรื่องความรักเนี่ย พัง คือเหมือนปิดประตูตายไปแล้ว ไม่เชื่อในรักแท้ ไม่เชื่อในความสัมพันธ์ระยะยาว คิดว่ามันก็แค่เรื่องฉาบฉวย แกนึกภาพออกป่ะ คนที่แบบปากเก่งเรื่องทฤษฎีความรัก แต่พอเอาเข้าจริงคือกลัวการผูกมัดเบอร์สิบ กลัวการโดนปฏิเสธ กลัวการเปิดใจให้ใครสักคนเข้ามา เพราะในอดีตก็คงเจออะไรมาเยอะแยะแหละ จนสร้างกำแพงไว้สูงมาก สูงจนไม่มีใครปีนเข้ามาได้ แล้วก็ทำเป็นตลกกลบเกลื่อน ทำเป็นแบบ ฉันอยู่ได้ ฉันสตรอง ฉันไม่ต้องมีใครก็ได้ แต่ลึกๆ คือเหงามากแกเอ๊ย คือมันเป็นคาแรคเตอร์ที่จับต้องได้มากในยุคนี้เลย แล้ววันหนึ่งโชคชะตา (หรือความเมาในปาร์ตี้ก็ไม่รู้) ก็พาเขาไปเจอผู้ชายอีกคนนึง คนนี้คือมาแนวตรงข้ามเลยจ้า ดูแบบ ล่ำๆ บึ้กๆ ดูผิวเผินเหมือนพวกสายออกกำลังกายที่ไม่คิดอะไรเยอะ ดูเหมือนพวกที่แบบ ใช้ชีวิตชิลล์ๆ ไปวันๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ความจริงคือ เปล่าเลยจ้า พอกัน อีตานี่ก็กลัวการผูกมัดเหมือนกัน แต่มาในอีกรูปแบบนึง คือดูเหมือนจะมั่นใจในตัวเองนะ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ คือเป็นคนที่เหมือนจะพยายามทำตัวให้คนอื่นยอมรับตลอดเวลา จนลืมไปว่าตัวเองจริงๆ รู้สึกยังไง คือภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่ข้างในคือเปราะบางไม่แพ้กันเลย แล้วพอมนุษย์สองคนที่กลัวการผูกมัดขั้นสุด แถมยังมีความซับซ้อนทางอารมณ์แบบสุดขั้วมาเจอกัน มันจะเป็นยังไงล่ะแก บันเทิงสิ คือมันมีเคมีนะเว้ย มันแบบ มันสปาร์ค มันจูนกันติดแบบแปลกๆ คุยกันแล้วมันดันเข้าใจกันซะงั้น ทั้งๆ ที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันสุดขั้ว แต่ความ พัง ข้างในมันดันคล้ายกัน แต่ประเด็นคือ ต่างคนต่างก็กลัวไง กลัวที่จะจริงจัง พยายามจะคบกันแบบ เฮ้ย เราไม่ซีเรียสนะ เราแค่สนุกๆ เราไม่ผูกมัดนะ แต่แกก็รู้ใช่มั้ย ว่าความรู้สึกคนเรามันห้ามกันไม่ได้หรอก พอยิ่งใช้เวลาด้วยกัน มันก็ยิ่งรู้สึกดี ยิ่งรู้สึกดี มันก็ยิ่งกลัว กลัวว่าถ้าถลำลึกไปแล้วมันจะเจ็บ หนังมันจะพาเราไปดูความสัมพันธ์แบบ ไปต่อก็ไม่ได้ จะพอแค่นี้ก็ทำไม่ลง ของจริงเลยเว้ย มันคือการต่อสู้กันระหว่างความรู้สึกที่อยากมีใครสักคน กับอีโก้และกำแพงที่ตัวเองสร้างไว้ คือที่อยากให้ดูเรื่องนี้มากๆ เพราะมันไม่ใช่แค่หนังตลกเว้ย มันตลกแบบจิกกัดสังคม จิกกัดวงการบันเทิง จิกกัดแม้กระทั่งคอมมูนิตี้ของตัวเอง คือมันฉลาดมาก ไดอะล็อกคือคมกริบ แล้วมันก็ไม่ได้ขายฝันอ่ะ มันโชว์ให้เห็นเลยว่าการเดทในยุคนี้มันยากยังไง มันซับซ้อนยังไง โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ ที่แบบ มันมีแรงกดดัน มีความคาดหวัง มีความกลัวที่มันเฉพาะตัวมากๆ หนังเรื่องนี้มันกล้าเล่าในมุมที่หนังรักเรื่องอื่นไม่ค่อยเล่า มันคือการพยายามหา ความปกติ ในความสัมพันธ์ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจคำว่าปกติเลยด้วยซ้ำ มันทั้งฮา ทั้งซึ้ง ทั้งจุก มันคือหนังที่ทำให้แกรู้สึกว่า เออว่ะ ชีวิตจริงมันก็แบบนี้แหละ มันคือหนังที่คนโสดก็ดูได้ คนมีคู่ก็ดูดี โดยเฉพาะคู่ที่แบบ ยังกั๊กๆ กันอยู่อ่ะ แกจะอินมาก ทีนี้ แกถามว่าแล้วจะไปหาดูได้ที่ไหนใช่มั้ย คือยุคนี้มันง่ายมากเลยแกเอ๊ย โลกเรามันหมุนเร็วมากเรื่องการดูหนังออนไลน์เนี่ย คือมันมีสิ่งที่เรียกว่า สตรีมมิ่ง ไง ที่แบบเราจ่ายรายเดือนแล้วก็ดูได้ไม่อั้นเลย ซึ่งมันดีกว่าไปหาเว็บเถื่อนเยอะนะเว้ย อันนั้นคือไวรัสก็เยอะ ภาพก็ไม่ชัด เสียงก็แตก แถมยังผิดลิขสิทธิ์เขาอีก สนับสนุนของแท้ดีกว่า มันสบายใจกว่ากันเยอะเลย แล้วเดี๋ยวนี้สตรีมมิ่งมันก็ไม่ได้แพงเวอร์วังอะไรขนาดนั้น หารกับเพื่อนกับครอบครัวนี่ยิ่งคุ้ม เข้าเรื่องของเราต่อ ทีนี้ หนังเรื่องนี้มันก็อาจจะวนเวียนอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ นี่แหละ แกต้องลองไปค้นหาดู คือมันมีหลายเจ้ามากเลยใช่ป่ะ ทั้งเจ้าที่มีตัว N สีแดงๆ ที่ดังๆ อ่ะ อันนั้นก็อาจจะมีหนังดีๆ เยอะ หรือเจ้าที่มีรูปผลไม้แหว่งๆ หน่อย อันนั้นก็หนังคุณภาพเยอะ หรือเจ้าที่เป็นของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ที่มีรูปปราสาทสวยๆ หรือเจ้าที่มีภูเขาเป็นโลโก้ หรือเจ้าที่สีม่วงๆ ที่มีคำว่า HBO อ่ะ คือมันเยอะไปหมดเลยเว้ย วิธีง่ายที่สุดนะ แกก็แค่เข้ากูเกิลนี่แหละ แล้วก็พิมพ์ชื่อหนัง แต่เรื่องนี้มันชื่อแบบสั้นๆ ไง พิมพ์ไปคำเดียวมันอาจจะไปเจออย่างอื่นเยอะแยะ แกอาจจะต้องพิมพ์ชื่อหนังพร้อมกับปีที่มันฉาย คือปี 2022 อ่ะ มันก็จะช่วยให้เจอง่ายขึ้น หรือจะพิมพ์ชื่อหนังแล้วตามด้วยคำว่า ดูได้ที่ไหน หรือ สตรีมมิ่ง อะไรแบบนี้ เดี๋ยวนี้มันฉลาด มันก็จะบอกแกเองว่าหนังเรื่องนี้มันลงให้ดูแบบถูกลิขสิทธิ์ที่เจ้าไหนบ้าง หรือบางทีมันอาจจะยังไม่ได้ลงในสตรีมมิ่งแบบบุฟเฟต์ แต่อาจจะต้องใช้วิธี เช่าดู หรือ ซื้อ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แทน ซึ่งอันนี้ก็ดีเหมือนกันนะ คือจ่ายเป็นเรื่องๆ ไปเลย อยากดูเรื่องไหนก็จ่ายเรื่องนั้น ไม่ต้องจ่ายรายเดือนถ้าแกไม่ได้ดูบ่อยๆ พวกแอปเปิ้ลทีวี หรือกูเกิลเพลย์มูฟวี่ อะไรพวกเนี้ย เขาก็มีบริการแบบนี้เหมือนกัน คือมันสะดวกมาก กดปุ๊บดูได้ปั๊บ ภาพชัดแจ๋วระดับ 4K เสียงกระหึ่มเหมือนอยู่ในโรงหนังเลยแกเอ๊ย แล้วข้อดีของการดูแบบถูกลิขสิทธิ์คืออะไรรู้ป่ะ คือมันเป็นการสนับสนุนคนทำหนังเว้ย ให้เขามีกำลังใจ มีทุนไปสร้างผลงานดีๆ แบบนี้ออกมาให้เราดูอีกไง ถ้าเรามัวแต่ไปดูของเถื่อน สุดท้ายวงการหนังมันก็อยู่ไม่ได้ ถูกมะ เพราะงั้นการลงทุนจ่ายเงินนิดหน่อยเพื่อซื้อความสุข เพื่อสนับสนุนงานศิลปะดีๆ มันคุ้มค่ามากนะเว้ย แกต้องลองเปิดใจดู แล้วเดี๋ยวนี้การสมัครมันก็ง่ายแสนง่าย ตัดบัตรเครดิตก็ได้ จ่ายผ่านมือถือก็ยังได้เลย สะดวกสุดๆ แล้วหนังเรื่องนี้เนี่ย มันเป็นหนังที่แบบ ควรค่าแก่การเสียเงินดูจริงๆ เชื่อฉันสิ พอดูจบนะ แกจะอยากชวนเพื่อนมาเมาท์ต่อเลยว่า แกเชียร์คนไหน แกเข้าใจฟีลนี้ป่ะ มันจะเป็นแบบนั้นเลย สรุปเลยนะเว้ย ไปดู ไปหามาดูเดี๋ยวนี้เลย นี่คือหนังรักของคนยุคใหม่ที่ กลัวความรัก อย่างแท้ทรู มันคือการเดินทางของคนสองคนที่พยายามจะทำลายกำแพงของตัวเองเพื่อที่จะรักใครสักคนให้เป็น มันไม่ใช่แค่เรื่องของเพศสภาพ แต่มันคือเรื่องของ มนุษย์ ที่กลัวการเจ็บปวดเว้ย มันคือเรื่องราวที่ทำให้เรากลับมาถามตัวเองว่า เราพร้อมที่จะเปิดใจรึยัง มันตลก มันซึ้ง มันจุก มันเรียล และมันคือหนังที่ทำให้แกเห็นว่าบางทีความรักมันก็ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบหรอก มันต้องการแค่ ความพยายาม เท่านั้นเอง ต่อให้จะเป็นแค่พวก Bros ที่ทำตัวแข็งแกร่งไปวันๆ แต่ลึกๆ ทุกคนก็อยากมีใครสักคนแหละน่า ไปดูซะ แล้วแกจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงเชียร์ขนาดนี้ มันดีจริงๆ แก